บริษัทฯ ยึดถือแนวทางในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืน โดยแบ่งออกเป็นมิติต่างๆ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันเพื่อให้เป็นการอยู่ร่วมกันชุมชนได้อย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงได้จัดตั้งหน่วยงานชุมชนสัมพันธ์ สำหรับดูแลชุมชนที่อยู่บริเวณรอบโครงการ โดยเป็นไปตามนโยบายและหลักการในการรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯเพื่อให้เกิดการพัฒนาแก่ชุมชนรอบข้าง ให้ได้รับประโยชน์สูงสุด จากการเข้ามาดำเนินกิจการในพื้นที่ของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบโครงการ หน่วยงานชุมชนสัมพันธ์จึงได้มุ่งเน้นโครงการที่ครอบคลุมมิติที่หลากหลาย ได้แก่ อาชีพ คุณภาพชีวิต การศึกษา สิ่งแวดล้อม ศาสนา วัฒนธรรมและประเพณี ในการดูแลชุมชนรวมไปถึงการจัดตั้งโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
บริษัทฯ ได้กำหนด “นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม” เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อการบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจ (CSR-in-Process) โดยมี 7 หลักการ ดังนี้
หลักการข้อที่ 1 : การกำกับดูแลกิจการที่ดี
หลักการข้อที่ 2 : การประกอบธุรกิจด้วยความเป็นธรรม
หลักการข้อที่ 3 : สิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อพนักงาน
หลักการข้อที่ 4 : ความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
หลักการข้อที่ 5 : สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
หลักการข้อที่ 6 : การมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม
หลักการข้อที่ 7 : การพัฒนา และเผยแพร่นวัตกรรมจากการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
การดำเนินงานด้าน CSR (Corporate Social Responsibility) ของบริษัทฯ มีกรอบการดำเนินงานที่มุ่งเน้นไปที่ถึงความยั่งยืน โดยคำนึงถึง 3 มิติหลัก ได้แก่ มิติด้านเศรษฐกิจ (Economic) มิติด้านสังคม (Social) และมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ภายใต้การดำเนินงานที่เท่าเทียม พึ่งพากันและกัน และความสมดุลร่วมกัน โดยมุ่งเน้นไปที่ การมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อประเมินและปรึกษาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมทั้งร่วมกันแก้ปัญหา อีกทั้งยังมีการเปิดโอกาสให้ชุมชนได้แสดงความคิดเห็น เพื่อนำมาพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อันจะเป็นแนวทางที่นำไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ตามกรอบและนโยบายของบริษัทฯ
หน่วยงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ได้จัดทำแผนงานและตัวชี้วัดความสำเร็จที่เกิดขึ้น ในพื้นที่โครงการต่างๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของชุมชนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งได้มีการกำหนดเป้าหมายดังนี้
บริษัทฯ ได้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานต่อชุมชนรอบโครงการซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียหลักของบริษัทฯ หน่วยงานชุมชนสัมพันธ์จึงได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคมเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนที่อยู่รอบโครงการ รวมไปถึงเปิดโอกาสให้ชุมชนได้ซักถามหรือแสดงความคิดเห็นเมื่อมีข้อกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท เพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและมีความสุข
ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นของชุมชนตามแนวทางที่หน่วยงานราชการกำหนด ก่อนริเริ่มโครงการ อีกทั้งยังมีการติดตามความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และความต้องการของชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่และทีมงานชุมชนสัมพันธ์ประจำโครงการแต่ละแห่ง เพื่อลงพื้นที่พูดคุย ติดตามประสานงาน รวมถึงรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของบริษัทต่อชุมชน ความต้องการของชุมชน ข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาจากชุมชน แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อจัดทำแผนงานให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ มาตรการด้านการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการของโครงการตามรายงานประมวลหลักปฏิบัติ (Code of Practice: COP) ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนมีดังนี้
นอกเหนือจากการกำหนดให้ฝ่ายปฏิบัติการและซ่อมบำรุง ต้องส่งรายงานผลการปฏิบัติการต่อคณะกรรมการบริหารแล้ว คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท และฝ่ายตรวจสอบภายใน ได้จัดตั้งแผนงานการตรวจสอบโรงงาน และโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ ในแผนการตรวจสอบประจำปี โดยวัตถุประสงค์นั้น เป็นไปเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานต่างๆของบริษัทฯ ได้ดำเนินการไปตามมาตรฐาน ข้อกำหนด กฎระเบียบ ข้อบังคับ รวมไปถึงแนวทางวิสัยทัศน์ และพันธกิจของบริษัทฯ
จากผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ได้ยึดมั่นนโยบายในการดำเนินงานด้วยความใส่ใจ และจริงใจ รวมถึงจริงจังต่อการดูแลผู้มีส่วนได้เสียจากการดำเนินธุรกิจ ประกอบด้วย ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า เจ้าหนี้ ชุมชนบริเวณโดยรอบของโครงการ พนักงาน องค์กรภายนอก และหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งบุคคลหรือองค์กรที่กล่าวมานี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ กลุ่มของบริษัทฯ ได้นำหลักปฏิบัติ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ โดยในปี 2566 บริษัทฯได้แบ่งผลการดำเนินการออกเป็น 3 มิติที่สำคัญ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ (Economy) ด้านสังคม (Social) และ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน สังคมอย่างแท้จริง
ได้มีการดำเนินโครงการต่อเนื่องโรงเรียนวัว เพื่อเพิ่มพูนทักษะของนักเรียนหรือผู้ที่สนใจ ในการทำปศุสัตว์ ให้มีอาชีพที่มั่นคง โดยโครงการนี้สามารถชักชวนให้ลูกหลานของคนในชุมชนกลับมาประกอบอาชีพที่บ้านเกิด (จังหวัดชัยภูมิ) ได้ เนื่องจากมีอาชีพรองรับภายในจังหวัด ผลจากการดำเนินงานที่จริงจังและดำเนินการต่อเนื่องของบริษัท ส่งให้ผลโครงการโรงเรียนวัวได้รับรางวัล “ค่าแผ่นดิน” ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพของคนในชุมชนตามมาอีกด้วย
ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาอาชีพของคนในชุมชนตำบลมะต้อง จังหวัดพิษณุโลก โดยดำเนินการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมะต้องให้สมารถทำสบู่ และเทียนหอมได้ จากนั้นเริ่มดำเนินการผลิตและปรับปรุงคุณภาพ จนสามารถนำไปจำหน่าย สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน
ดำเนินโครงการโรงเรียนไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน ณ โรงเรียนชุมชนบ้านหัวหวาย จังหวัดนครสวรรค์ สนับสนุนการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่พร้อมวัสดุอุปกรณ์สำหรับการเลี้ยงไก่ มอบพันธุ์ไก่ไข่ จำนวน 120 ตัว และอบรมส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการเลี้ยงไก่ไข่แก่นักเรียนก่อนเริ่มปฏิบัติจริง โดยผลการดำเนินโครงการนี้ทำให้นักเรียนมีองค์ความรู้ทางด้านการเลี้ยงไก่ไข มีแนวทางในการดำเนินชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง และสามารถนำไข่ไก่ที่ได้มาบริโภคเพิ่มโปรตีนในเมนูอาหารกลางวันของโรงเรียน และนำไปจำหน่ายสร้างรายได้เสริม
กิจกรรมด้านพลังงานสะอาดร่วมกันกับชุมชนรอบโครงการ บริษัทฯได้จัดอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างการตระหนักรู้ถึงประโยชน์และสิ่งที่จะได้รับจากการเข้าถึงพลังงานสะอาด โดยในแต่ละโครงการทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในภูมิภาคต่างๆของบริษัท ได้เปิดโอกาสให้บุคคล/หน่วยงานภายนอก ได้เข้ามาเรียนรู้และศึกษาถึงกระบวนการผลิต และการได้มาซึ่งพลังงาน ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ร่วมสนับสนุนแผงโซล่าเซลล์ โดยนำไปติดตั้งในพื้นที่สาธารณะของชุมชน เพื่อเป็นการลดค่าภาระค่าใช้จ่ายทางด้านพลังงาน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนในท้องที่เข้าถึงพลังงานสะอาด โดยเห็นตัวอย่างของการนำแผงโซล่าเซลล์ มาผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานสะอาดอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจของบริษัท
ลงพื้นที่ออกแบบและให้ความรู้เกี่ยวกับโซล่าเซลล์แก่ผู้นำชุมชน/ตัวแทนชุมชน ตำบลหนองหล่ม จังหวัดลำปาง ณ วัดบ้านล้อง
ต้อนรับคณะดูงานเพื่อเยี่ยมชมโรงไฟฟ้า จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
มอบแผงโซล่าเซลล์ โดยเพื่อนำไปทำสถานีสูบน้ำสำหรับทุ่งดอกคอสมอส และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ
บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด และ บริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกิจกรรมวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำคูคลองแห่งชาติ (วันกตัญญูสายน้ำ) ครั้งที่ 19 ณ ศาลาริมน้ำวัดสนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จัดโดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมอำเภอบ้านโพธิ์ โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธี ภายในงานมีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ชมนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์จากโรงเรียนในพื้นที่ ทั้งนี้บริษัทได้ร่วมสนับสนุนงบประมาณพร้อมน้ำดื่ม เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้
บริษัทฯ ร่วมกับ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ สนับสนุนเครื่องผลิตออกซิเจน จำนวน 100 เครื่อง ประกอบด้วยเครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 5 ลิตร จำนวน 50 เครื่อง และเครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 10 ลิตร จำนวน 50 เครื่อง ให้แก่มูลนิธิกระจกเงา ภายใต้โครงการ “ป่วยให้ยืม” โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความต้องการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแก่ผู้ป่วยที่ไม่สะดวกในการซื้อเครื่องมือใหม่ บริษัทได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการช่วยเหลือสังคม และต้องการหนุนเสริมให้โครงการมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จึงได้ให้การสนับสนุนแก่มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ทำงานด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง
บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ร่วมกับ มูลนิธิกระจกเงา ต่อยอดโครงการ “ป่วยให้ยืม” โดยการสนับสนุนสารดูดซับในเครื่องผลิตออกซิเจน เพื่อช่วยยืดอายุเครื่องผลิตออกซิเจนที่หมดอายุหรือมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอในการผลิตออกซิเจน ให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง ไม่ใช่ครั้งเดียว ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเปลี่ยนสารดูดซับในเครื่องผลิตออกซิเจนจำนวน 208 เครื่อง แบ่งเป็นขนาด 10 ลิตร จำนวน 83 เครื่องและขนาด 5 ลิตร จำนวน 125 เครื่อง