กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ตระหนักดีว่า พนักงานเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร จึงได้มีการกำหนดกลยุทธ์การบริหารงานทรัพยากรบุคคลซึ่งประกอบด้วย การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสูงจากทุกช่องทาง การเพิ่มผลผลิตภาพพนักงาน การเสริมสร้างความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร การพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานให้ตอบรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และไม่อาจคาดการณ์ได้ (BANI – Brittle, Anxious, Nonlinear, Incomprehensible) รวมทั้งการยกระดับมาตรฐานและบริหารในงานทรัพยากรบุคคล
สำหรับการบริหารจัดการพนักงาน กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้กำหนดนโยบายด้านความหลากหลาย (Diversity & Inclusion) ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเหมาะสม โดยไม่มีการแบ่งแยก รวมทั้งยอมรับความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ และสัญชาติ และยอมรับความแตกต่างทั้งด้านค่านิยมและวัฒนธรรม ตลอดจนกระบวนการสรรหา การจ้างงานและการแต่งตั้ง พร้อมกับการส่งเสริมการเรียนรู้ การพัฒนาพนักงาน และการดูแลพนักงานให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนต่อความสำเร็จขององค์กร ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและผลักดันการเคารพสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งองค์กร บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการเคารพต่อสิทธิมนุษยชนของทุกคน และถือเป็นหน้าที่ของบริษัทตลอดจนคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน (Business Partners, Suppliers) และผู้รับเหมา (Contractors) และคู่ค้าในกิจการร่วมค้า (Joint Ventures) ที่จะต้องยึดมั่นต่อหลักการด้านสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติต่อพนักงาน (Employees) ลูกจ้างจากภายนอกบริษัท (Outsource/Subcontract/Third Party Employee) ลูกค้า (Customers) ชุมชน (Local communities),แรงงานข้ามชาติ (Migrant Workers), ชนพื้นเมืองดั้งเดิม (Indigenous People), ผู้หญิง (Women), ผู้ชาย (Men) เพศทางเลือก (LGBTQI+), ผู้พิการ (Disabled Person) หญิงตั้งครรภ์ (Pregnant Women) และ ผู้สูงอายุ (Elderly People) ผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกันและหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนทุกรูปแบบ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ปราศจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์จึงได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกกิจกรรมทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ เราให้ความสำคัญและเคารพสิทธิมนุษยชนตามที่ระบุไว้ในปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) รวมทั้งข้อตกลงร่วมและสนธิสัญญาต่างๆ ที่ เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อแรงงานและปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง (UN Declaration on the Rights of Indigenous Peoples) ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) แนวปฏิบัติ เรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับธุรกิจ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights) หลักการความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนโดยสมัครใจ (Voluntary Principles on Security and Human Rights) และ ปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labor Organization’s Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work - ILO) โดยจัดทำและประกาศนโยบายเป็นข้อผูกพันเชิงนโยบาย (Policy Commitment & Human Right Commitment) รวมถึงกลุ่มบริษัทฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการจ้างงานผู้พิการและการจ้างงานผู้สูงอายุ เพื่อส่งเสริมการมีรายได้และมีงานทำของผู้พิการและผู้สูงอายุ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมด้านสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ยังได้รับรางวัล Human Right Award ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยปี 2566 ได้รับรางวัลในระดับดีเด่น
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้นำกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence : HRDD) ตามหลักการชี้แนะเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับธุรกิจแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights : UNGP) มาเป็นกรอบในการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน โดยดำเนินการครอบคลุมทุกกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศไทยและทุกพื้นที่ในประเทศที่บริษัทมีพื้นที่ปฏิบัติการพร้อมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งมีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์มีระบบการควบคุมและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งมีมาตรการสนับสนุนด้านสิทธิมนุษยชนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ คู่ค้าและผู้รับเหมา รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะต้องให้ความสำคัญและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนตามแนวทางการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ และดำเนินธุรกิจตามหลักการดังกล่าว
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ให้ความสำคัญกับกระบวนการในการปกป้องและเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินงาน โดยจัดให้มีช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนในทุก ๆ สถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินและภาวะวิกฤติในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จะไม่กีดกันและขัดขวางผู้ที่อาจได้รับผลกระทบหรือนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและกระบวนการเยียวยาใด ๆ และกำหนดรูปแบบให้มีการเยียวยา ทั้งทางรูปแบบตัวเงิน อาทิ การจ่ายเงินชดเชย การสนับสนุนเงินช่วยเหลือ และไม่ใช่ตัวเงิน เช่น การให้คำแนะนำ หรือสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำแนะนำ โดยจัดเตรียมช่องทางการสื่อสารเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อร้องเรียนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบสามารถแจ้งข้อร้องเรียนไปยังศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งติดต่อตรงไปถึงประธานกรรมการตรวจสอบ กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จะดำเนินการวิเคราะห์หาสาเหตุ ดำเนินการแก้ไขและป้องกันตามขั้นตอนต่อไป เพื่อร่วมกันบริหารจัดการด้วยวิธีที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความพึงพอใจของทุกฝ่ายต่อไป
ไม่มีเหตุการณ์ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน
ความท้าทาย: เสริมสร้างให้พนักงานทุกคนสามารถนำจรรยาบรรณของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ไปใช้ในทุกการตัดสินใจในการปฏิบัติงาน รวมทั้งการตระหนักถึงความสำคัญของความเสี่ยงต่างๆ ในการทำงาน และระมัดระวังด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัย ด้วยการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่สามารถเข้าถึงพนักงานได้กว้างขวางมากขึ้น
การดำเนินการ : จัดทำเนื้อหาให้พนักงานสามารถเข้าเรียนรู้และทบทวนความรู้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีแบบทดสอบเพื่อวัดระดับความรู้เกี่ยวกับจรรยาบรรณ, การต่อต้านคอร์รัปชั่น, การบริหารจัดการความเสี่ยง, ความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานทุกระดับ พนักงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับความรู้และผ่านการทดสอบ คิดเป็นร้อยละ 91.82
การดำเนินการ : สืบเนื่องจากที่ประเทศไทยประกาศใช้พระราชบัญญัติความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ซึ่งคุ้มครองไม่ให้มีการกระทำที่เลือกปฏิบัติโดยอ้างเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้ติดตามและสื่อสารเรื่องของความเท่าเทียมกันระหว่างเพศที่ได้ประกาศใช้ใหม่ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายรับทราบและใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ โดยกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ยังคงถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในหลักการความเท่าเทียมระหว่างเพศ ทั้งการจ้างงาน การจ่ายค่าตอบแทน ความก้าวหน้าทางตำแหน่งงานและอาชีพ และสภาพการทำงาน สวัสดิการพนักงาน เช่น ทั้งผู้หญิงลาคลอดและผู้ชายสามารถลาดูแลบุตรโดยได้รับค่าจ้างเช่นกัน
กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นยุทธศาสตร์เชิงรุกผ่านการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศเพื่อเข้าถึงและเข้าใจความคาดหวังของนักศึกษาที่มีต่อองค์กรที่อยากร่วมงานด้วย ตลอดจนเป็นการช่วยเตรียมความพร้อมในด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่องค์กรคาดหวังผ่านการร่วมออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่นักศึกษาเพื่อเข้าสู่การทำงานในองค์กรหลังจบการศึกษา โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU ในโครงการการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง (Energy Storage System) อุตสาหกรรมด้านโอลิเคมิคัล (Oleochemical) และอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Electric Vehicle) เพื่อรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กับสถาบันการศึกษาในเขต ECC จำนวน 10 สถาบัน
เพื่อให้ได้บุคลากรที่ตรงตามความต้องการเป็นคนเก่งที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ และมีอัตลักษณ์ของคนอีเอ (EA’s DNA) กลุ่มบริษัทฯ จึงมีแนวทางในการสรรหาบุคลากรเชิงรุก (Proactive Recruitment) โดยการเดินสายประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัยกลุ่มเป้าหมาย (Roadshow) และทำ Job Fair ทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online
เป็นโครงการที่มุ่งเน้นให้นักศึกษาได้ฝึกงานในสถานที่ทำงานและส่วนงานที่สอดคล้องกับความรู้และทักษะของนักศึกษาในรูปแบบสหกิจศึกษาและภาคฤดูร้อน โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เข้ามาเรียนรู้ และมีพนักงานขององค์กรเป็นพี่เลี้ยง ปี 2566 มีนักศึกษาเข้ามาฝึกงานรูปแบบสหกิจและภาคฤดูร้อนจำนวน 54 คน ทั้งนี้ในระหว่างฝึกงาน นักศึกษาจะได้เบี้ยเลี้ยงบางส่วนซึ่งเป็นการช่วยสนับสนุนภาระค่าเดินทางและค่าอาหาร
ความเป็นมา : ในแต่ละปีมีพนักงานที่อายุครบเกษียณจำนวนมาก แต่พนักงานหลายคนเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถ่ายทอดวิธีการทำงานแก่พนักงานรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์จึงเล็งเห็นความสำคัญของการรักษาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถสูงและสร้างคุณค่าแก่องค์กรไว้
ผลการดำเนินการ : กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์จัดทำโครงการ Re-Employment Program ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้มีการจ้างงานหลังเกษียณอายุ ทั้งนี้จะมีการพิจารณาความเหมาะสมของลักษณะงานและจำนวนพนักงานที่เกษียณอายุแต่ละปี ในปี 2566 ได้จ้างงานต่อกับพนักงานหลายระดับจำนวน 9 ท่าน เป็นจำนวนเท่ากับปี 2565
ความเป็นมา : เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีศักยภาพ มีความหมาย มีคุณค่าสำคัญต่อสังคม สอดคล้องกับความสามารถ และให้โอกาสผู้พิการได้แสดงศักยภาพของตน
ผลการดำเนินการ : โดยเมื่อปี 2566 กลุ่มบริษัทพลังานบริสุทธิ์ได้จ้างงานผู้พิการต่อเนื่องจากปี 2565 จำนวนทั้งสิ้น 9 คน
ความท้าทาย : การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีภายใต้รูปแบบการทำธุรกิจในปัจจุบัน เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้องค์กรและพนักงานต้องปรับตัวต่อความท้าทายดังกล่าว องค์กรจึงได้มีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาพนักงานให้รับมือกับความท้าทายในยุคดิจิทัล
การดำเนินการ : กลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร และการเป็นองค์กรที่ห่วงใยพนักงานประกอบด้วย
การยกระดับศักยภาพความสามารถของพนักงานผ่านการพัฒนาและนำเสนอโครงการการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมกับพนักงานทุกระดับ
การสนับสนุนให้พนักงานมีทักษะรอบด้านผ่านการหมุนเวียนงาน (Internal Rotation) โดยบริษัทฯ มีกระบวนการส่งเสริมและเตรียมความพร้อมเพื่อให้การหมุนเวียนงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและพนักงานสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างประสบผลสำเร็จ
การสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากสถาบันการศึกษา ผ่านโครงการพัฒนาบุคลากรเชิงกลยุทธ์และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์มีการประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานทุกระดับ โดยได้นำระบบ Performance Management System เข้ามาใช้ในองค์กร เพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน อีกทั้งยังช่วยให้ทราบถึงระดับความสามารถของพนักงาน ระบบมุ่งเน้นการทำงานให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยมีการเชื่อมโยงเป้าหมายองค์กรมาสู่หน่วยงานและระดับพนักงาน มิติที่ 1 ความสำเร็จในงาน โดยใช้ OKR หรือ Objective Key Result เพื่อการวัดความสำเร็จในระดับเป้าหมายขององค์กรหรือฝ่าย นอกจากนั้นเราใช้ PDA หรือ Performance Development Appraisal เพื่อวัดความสำเร็จในเป้าหมายระดับตัวบุคคล มิติที่ 2 คุณลักษณะเชิงพฤติกรรม โดยการใช้เครื่องมือแบบสำรวจในลักษณะ 360 องศา เรียกว่า Service & Collaboration Satisfaction เพื่อรับการประเมินผ่านมุมมองของ เพื่อนร่วมงานต่างหน่วยงาน ซึ่งหน่วยงานผู้รับการประเมินจะถูกประเมินในพฤติกรรมที่เป็นอัตลักษณ์และผลงานที่ส่งมอบของพนักงานกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ (EA’s DNA)
ความท้าทาย : การเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัลส่งผลให้รูปแบบการทำงานขององค์กรเปลี่ยนแปลงไป สภาวการณ์ของการแข่งขันในการสรรหาและดึงดูดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านในยุคดิจิทัล
การดำเนินการ : พัฒนาศักยภาพของพนักงานเพื่อสร้างโอกาสและความก้าวหน้าในการทำงานภายใต้บริบทที่เปลี่ยนไป, การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อสรรหาบุคลากร, การพัฒนาทักษะและสร้างคุณค่าผ่านการร่วมโครงการนวัตกรรม โดยความรู้และทักษะนั้นเกี่ยวข้องกับหน้าที่งานประจำ วุฒิภาวะความเป็นผู้นำ ตลอดจนทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของพนักงาน ผ่านการจัดทำแผนการพัฒนาพนักงานรายบุคคล (Individual Development Plan - IDP) กับพนักงานทุกระดับ และได้นำเสนอหลักสูตรการพัฒนาความรู้และทักษะทั้งในระดับผู้บริหารระดับสูง (Vice President) ผู้จัดการ (Manager) พนักงานและเจ้าหน้าที่ ครอบคลุมทั้งหน่วยงานฝ่ายผลิตและหน่วยงานสนับสนุน
สำหรับผู้บริหารระดับสูง (Vice President) องค์กรมุ่งให้เครื่องมือและแนวคิดการบริหารผลการปฏิบัติงานให้ได้ตามเป้าหมายขององค์กร (OKRs) ผ่านการโค้ชและให้ข้อมูลป้อนกลับ (Coaching & Feedback for Peak Performance)
สำหรับผู้จัดการ (Manager) เราได้ให้ความรู้ในการเป็นผู้นำและหัวหน้างานที่ดี รวมไปถึงทักษะการแก้ไขปัญหาและตัดสินใจ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของผู้จัดการผ่านหลักสูตรสุดยอดผู้นำและหลักสูตร Feedback & Coaching for Peak Performance
สำหรับพนักงานและเจ้าหน้าที่ กลุ่มบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นให้ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะในวิชาชีพ โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า เป็นการส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาความรู้และทักษะที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพงานให้มีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือคุณภาพต่างๆ เช่น Project Management และ Lean เพื่อช่วยให้พนักงานประสบความสำเร็จและมีความก้าวหน้าในอาชีพ
เพื่อให้การพัฒนาองค์กรสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์ รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่ทุกองค์กรต้องเผชิญ ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว จะสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรได้ กลุ่มพลังงานงานบริสุทธิ์จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาพนักงานให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่เสมอในโลกปัจจุบัน ซึ่งวิธีการพัฒนาพนักงานได้ถูกพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายใน 4 รูปแบบ
จัดระบบการเรียนรู้แบบ Digital Learning ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Self – Learning)
หลักสูตรเข้าเรียนในห้องอบรม (Onsite)
การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูล หรือเรื่องราวจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Knowledge Sharing)
เรียนรู้ผ่านการทำโครงการ (Project Based-Learning)
เรียนรู้แบบผสมผสานวิธีการ (Blended Learning)
หลักสูตรดังกล่าวจะยกระดับจากแนวคิดสู่การลงมือทำจริงเพื่อสร้างผลต่อธุรกิจด้วยกระบวนการ Design Thinking, การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากผู้บริหาร, ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้การพัฒนาบุคลากรผ่านการทำโครงการร่วมกันดังกล่าวสามารถวัดผลการเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในเรื่องการพัฒนาความรู้ ทักษะ การนำไปใช้ในการทำงาน ผลสำเร็จต่อเป้าหมายและการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ โดยพนักงานได้ส่งโครงการเข้าประกวดแคมเปญ EA Inside EA ของกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ ยังจัดการพัฒนาความสามารถด้านวิชาชีพ (Functional Competency Development) โดยบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาตามแนวทาง 70:20:10 หมายถึง เรียนรู้ด้วยตนเองและจากการปฏิบัติงาน ร้อยละ 70, เรียนรู้จากผู้อื่นและการสอนงาน ร้อยละ 20 และเรียนรู้จากการฝึกอบรม ร้อยละ 10 จากความเชื่อว่าการพัฒนาบุคลากรผ่านประสบการณ์จริงจากการลงมือทำจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ และสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานอย่างแท้จริง
ผลการดำเนินการ : การมีโครงการที่พัฒนาพนักงานและตอบโจทย์ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร เช่น EA Inside EA, Mentorship Program
จากแนวทางการพัฒนาพนักงานของกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของพนักงานด้วยแนวทาง 70:20:10 เพื่อยกระดับการเรียนรู้และก้าวสู่ Digital Transformation ทำให้ในปี 2566 กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์มีผลการพัฒนาพนักงาน ดังนี้
เรียนรู้ด้วยตนเองและจากการปฏิบัติงาน ร้อยละ 70 ได้แก่
พัฒนาผ่านแคมเปญ EA Inside EA ตามแนวทางกระบวนการสร้างสรรค์ทางปัญญาที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านการคิดและลงมือทำในลักษณะ Project Based Learning (PBL) จำนวนโครงการ 29 โครงการ มูลค่าเพิ่มคาดการณ์ (Estimated Value Added) 9.4 ล้านบาท )
พัฒนาผ่านการ On-the-Job Training พนักงานเรียนรู้การทำงานผ่านการปฏิบัติงานจริง
การพัฒนาการเรียนรู้จากผู้อื่น ร้อยละ 20 ในปีนี้ได้มีการพัฒนาทักษะการโค้ชให้กับผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการพัฒนาที่สำคัญ ดังนี้
โครงการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง ระดับกลาง และการจัด Executive One on One Coaching ให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่เป็นรายบุคคล (Executive Trainee Program)
โครงการสุดยอดผู้นำ EA Group โดยมีผู้เข้าอบรม 160 คน คิดเป็นร้อยละ 20.9
เรียนรู้จากการฝึกอบรม ร้อยละ 10
ร้อยละ 10 ของการพัฒนาด้วยการเรียนรู้ภายในห้องเรียนหรือการฝึกอบรมของพนักงานกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์นั้นได้ให้ความสำคัญกับวิธีการเรียนรู้ เพื่อให้สอดคล้องกับพนักงานที่มีพื้นฐานที่แตกต่างกัน รวมทั้งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การเรียนรู้แบบ Blended Learning ที่ผสมผสานระหว่างการพัฒนาความรู้ในเชิงทฤษฎีและการปฏิบัติผ่านการใช้ Case Based Learning รวมทั้งการสร้างทักษะ สนับสนุน และผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นต้น
การนำเอาระบบดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาและเรียนรู้ของพนักงานมากยิ่งขึ้น โดยจัดการเรียนรู้แบบ Self - Learning ผ่านระบบ @CORE มีการใช้ QR Code ในการทำแบบสำรวจ และประเมินผลการฝึกอบรม
บริษัทฯ ดำเนินการสำรวจความผูกพันของพนักงานโดยใช้สถาบันที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งผลความผูกพันของพนักงานในปี 2566 อยู่ในระดับ ร้อยละ 48 จากเป้าหมายที่ระดับ ร้อยละ 56 ซึ่งข้อคำถามสามารถบ่งชี้ได้ถึง ความพึงพอใจในงาน ,งานมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน, การมีความสุขในการทำงานโดยเป็นส่วนใหญ่, การมีความเครียดในการทำงานโดยเป็นส่วนใหญ่ โดยในปี 2566 บริษัทฯ ได้ดำเนินปรับปรุงระบบสารสนเทศให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานที่ต้องการความรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย และโครงการ "Process Restructuring" จากทั้ง 2 โครงการ นำมาซึ่งการเปลี่ยนผ่านกระบวนการขออนุมัติต่างๆ ให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับพนักงานโดยตรง เริ่มมีขั้นตอนชัดเจน มีความสะดวกและรวดเร็วต่อผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้งาน
กลุ่มบริษัทมีนโยบายสนับสนุนการหมุนให้พนักงานมีความเติบโตในอาชีพทั้งแบบทางตรง ทางกว้าง และแนวทแยง อีกทั้งยังมีการหมุนเวียนงานภายในองค์กร (Job Rotation) เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสเรียนรู้และสร้างทักษะใหม่ๆ ข้ามหน่วยงาน อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรสามารถเตรียมกำลังคนได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เชิงธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต (Strategic Workforce Planning) ผลการดำเนินงาน :
นอกจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมและการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป กลุ่มบริษัทฯ ยังได้กำหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรม สร้างบรรยากาศในการพัฒนานวัตกรรมซึ่งเป็นหนึ่งใน อัตลักษณ์ของคนอีเอ (EA’s DNA) ให้พนักงานกล้าคิดนอกกรอบในเชิงสร้างสรรค์ กล้านำเสนอ กล้าเปลี่ยนแปลง ผ่านการส่งผลงานนวัตกรรมเข้าประกวดในแคมเปญ EA Inside EA
ปี 2566 พนักงานจากบริษัทในกลุ่มบริษัทฯ รวม 12 บริษัท ให้ความสนใจร่วมส่งผลงานเข้าประกวด 29 โครงการ โดยเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัท 9,395,778.68 บาท จากโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้น มูลค่า 7,765,856.28 บาท และ โครงการที่ยังอยู่ในกระบวนการตัดสินมูลค่า 1,629,922.40 บาท และเป็นปีที่ 6 ของโครงการ EA Inside EA นับตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 90 โครงการ ตัวอย่างผลงานจากการประกวด EA Inside EA ปี 2566 ที่ได้รับเงินรางวัลมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ
วัตถุประสงค์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อ และ Stock ชุดอะไหล่ของ Solar Inverter
ผลการดำเนินการ ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออะไหล่ของ Solar Inverter ทั้งสิ้น 3,010,500 บาท
วัตถุประสงค์ เพื่อลดปริมาณการใช้แบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการทำงานและประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ
ผลการดำเนินการ ลดจำนวนการใช้แบตเตอรี่ทั้งหมด 4,480 ก้อน และลดค่าใช้จ่ายในการซื้อแบตเตอรี่ 3,628,800 บาท
วัตถุประสงค์ เพื่อบำรุงรักษาเครื่องจักรให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ตอบสนองต่อความต้องการใช้งานของกระบวนการผลิต, ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
ผลการดำเนินการ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าได้ 470,737 บาทต่อปี, ประหยัดพลังงาน 126,327.96 kWh/ปี และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 10.77 tCO2e/ปี
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ได้นำโปรแกรมการวิเคราะห์บุคลากรมาใช้เพื่อวัดผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ช่วยในการจัดทำแผนพัฒนาพนักงาน เสริมทักษะการทำงาน ช่วยในการสรรหาและว่าจ้างพนักงาน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนั้นโดยผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะ 2 ด้านคือ การสร้างทักษะ (Reskill) และการเสริมทักษะ (Upskill)
ประโยชน์ของโปรแกรมวิเคราะห์บุคลากร
เสริมสร้างศักยภาพ โดยวางโครงสร้างเนื้อหา การเรียนแบบโมดูล ซึ่งคาดว่าองค์ความรู้จะเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
การสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา โดยเชื่อมโยงแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร นำองค์ความรู้มาพัฒนาและต่อยอด ซึ่งคาดว่าจะเกิดการสร้างสรรค์และแบ่งปันองค์ความรู้ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
การสร้างวัฒนธรรมการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ (Knowledge Sharing) โดยสร้างกำหนดการในการแบ่งปันความรู้อย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ ซึ่งคาดว่าพนักงานจะคุ้นเคยกับการแบ่งปันความรู้, ประสบการณ์ และสิ่งที่ได้เรียนรู้ให้นำไปต่อยอดได้เร็วยิ่งขึ้น
นำกระบวนการ Knowledge Management (KM) มาเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กรซึ่งมีอยู่ในตัวบุคคล หรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายคือ ให้พนักงานในองค์กรเข้าถึงความรู้ที่สำคัญของธุรกิจ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงการแข่งขันอย่างสูงสุด
กลุ่มบริษัทฯ ใส่ใจดูแลพนักงานให้มีความสุขและสะดวกสบายในการทำงาน มีดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน รวมถึงมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายซึ่งพนักงานสามารถเข้าถึงเพื่อรับทราบข่าวสาร การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของทางบริษัทฯ และข้อแนะนำต่างๆ ที่องค์กรได้นำมาพัฒนาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี, การฝึกอบรมพัฒนา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังได้มีการนำรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid Working กับหน่วยงานที่มีสภาพการทำงานเหมาะสมในสำนักงานใหญ่เกือบทุกหน่วยงาน ซึ่งพนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ สามารถปรับตารางเวลาและสถานที่ทำงานให้ยืดหยุ่นสามารถสร้างสมดุลชีวิตของตนเอง ตอบสนองการทำงานยุคใหม่ สร้างให้เกิด Work Life Balance อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญและสนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างของพนักงานในองค์กรอย่างเท่าเทียม หรือ Diversity and Inclusion (D&I) โดยจัดให้มีสวัสดิการลาดูแลบุตร โดยได้รับค่าจ้าง ครอบคลุมทั้งพนักงานที่เป็นฝั่งมารดา และบิดา เพื่อให้พนักงานได้ใช้ช่วงเวลาสำคัญในการสร้างความผูกพันในครอบครัว กล่าวคือ พนักงานหญิงลาคลอดบุตรได้ 98 วันตามกฎหมาย พนักงานชาย ลาเพื่อดูแลภรรยาคลอดบุตรโดยได้รับค่าจ้าง 3 วัน พนักงานทั้งหญิงและชายลาเพื่อดูแลบิดามารดา สามีภรรยา และบุตรกรณีพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ 6 วันโดยได้รับค่าจ้างซึ่งมากกว่ากฎหมายกำหนด หรือลาทำกิจธุระอันจำเป็นที่ไม่สามารถให้ผู้อื่นทำแทนได้ เช่น ติดต่อราชการ
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ดูแลพนักงานให้มีสุขภาวะที่ดี (Well-being) ในทุก ๆ ด้าน โดยในปี 2566 ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพกายที่ดี(Physical Well Being) ผ่านการรณรงค์ให้พนักงานเล่นกีฬา เช่น แบดมินตัน , ฟุตบอล, กีฬาสี (Sport Day), จัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดโปร่ง, ไม่แออัด, ถ่ายเทอากาศได้สะดวกให้พนักงานได้ใช้เวลาในช่วงพักกลางวันเป็นพื้นที่พักผ่อนเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะทางสภาพแวดล้อม (Community Well Being)
กลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้เกิดความสมดุลในการปฏิบัติงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว บริษัทได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการแรงงานในสถานประกอบการ (Freedom of Association) ซึ่งมีพนักงานที่เป็นตัวแทนมาจากการเลือกตั้งจำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 3.52 ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความต้องการด้านสวัสดิการของพนักงานให้บริษัทได้รับทราบ รวมทั้งทำหน้าที่ร่วมให้ข้อเสนอแนะ ตรวจสอบการดูแลการจัดสวัสดิการของบริษัท ซึ่งมีการจัดสรรสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากสวัสดิการพื้นฐานตามกฎหมายกำหนดให้แก่พนักงานทุกคนอย่างไม่เลือกปฏิบัติ โดยพนักงานจะได้รับสวัสดิการ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี, การประกันชีวิต, ประกันอุบัติเหตุ, การรักษาด้านทันตกรรม, การดูแลการใช้สายตา, อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล, สวัสดิการกู้ยืมเงินสถาบันการเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยพนักงาน และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวพนักงาน ประกอบด้วยสามี/ภรรยา และบุตร/บุตรบุญธรรม สามารถมีสิทธิรักษาพยาบาลโดยชำระเบี้ยประกันในราคาและสิทธิประโยชน์เดียวกับพนักงาน
ปัญหาน้ำท่วมเฉียบพลันเมื่อปี 2566 ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพนักงานในกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพนักงาน โดยได้มอบเงินให้กับพนักงานที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 2 คน